สาระสำคัญภายในบทความ
1. งานรีดเกลียว (Thread Rolling)
กระบวนการ : เป็นการรีดโลหะให้เกิดเกลียวโดยใช้แรงอัดผ่านลูกกลิ้งหรือตัวรีด โดยไม่ต้องตัดเนื้อวัสดุออก แต่ใช้การกดอัดเพื่อให้เนื้อวัสดุถูกบีบและขึ้นรูปเป็นเกลียว
คุณสมบัติของชิ้นงาน : เกลียวที่ได้จะมีความแข็งแรงสูง เนื่องจากเนื้อโลหะไม่ได้ถูกตัดออก ทำให้เกิดความแข็งแรงภายในของวัสดุและผิวเกลียวมีความทนทานมากขึ้น
ข้อดี : เกลียวที่รีดจะมีความแข็งแรงกว่าการกลึง มีความเร็วในการผลิตสูง และยังช่วยลดการสูญเสียเนื้อวัสดุ
ข้อเสีย : การรีดเกลียวจำเป็นต้องใช้เครื่องมือและกระบวนการที่มีความซับซ้อนกว่า และไม่เหมาะกับการผลิตเกลียวขนาดเล็กหรือชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน
2. งานกลึงเกลียว (Thread Cutting)
- กระบวนการ : เป็นการตัดเนื้อวัสดุออกเพื่อสร้างเกลียว โดยใช้เครื่องกลึงหรือเครื่อง CNC ที่มีมีดกลึงตัดตามแนวที่ต้องการ
- คุณสมบัติของชิ้นงาน : เกลียวที่ได้จะมีความละเอียดและความแม่นยำในการกำหนดขนาดได้ง่าย เหมาะกับการทำเกลียวที่มีรูปร่างหรือขนาดเฉพาะที่ซับซ้อน
- ข้อดี : สามารถผลิตเกลียวที่มีความซับซ้อนหรือมีขนาดเล็กได้ง่าย เหมาะกับการผลิตในปริมาณน้อยหรือสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
- ข้อเสีย : เกลียวที่ได้จะมีความแข็งแรงน้อยกว่างานรีดเกลียว เนื่องจากมีการตัดเนื้อวัสดุออกทำให้โครงสร้างของเนื้อวัสดุถูกทำลายไปบางส่วน
สรุปความแตกต่าง
- งานรีดเกลียว ไม่ได้ตัดเนื้อวัสดุออก แต่ใช้การกดให้เกิดเกลียว ส่งผลให้เกลียวมีความแข็งแรงกว่า
- งานกลึงเกลียว ใช้การตัดเนื้อวัสดุเพื่อสร้างเกลียว ทำให้เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดสูงและมีรูปร่างซับซ้อน แต่ความแข็งแรงของเกลียวจะน้อยกว่างานรีดเกลียว