สาระสำคัญภายในบทความ
เกรดของสกรู มีหลายประเภทที่แบ่งตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ISO, ASTM, และ SAE ซึ่งแต่ละมาตรฐานจะกำหนดเกรดของสกรูตามความแข็งแรงและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
โดยทั่วไปแล้ว เกรดของสกรูสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้ :
1. เกรด 4.6
- ความแข็งแรงต่ำ : ใช้ในงานทั่วไปที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก เช่น งานไม้หรืองานที่ต้องการความยืดหยุ่น
- วัตถุดิบที่ใช้ : เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Steel)
2. เกรด 8.8
- ความแข็งแรงปานกลางถึงสูง : ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไปที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทาน เช่น งานเครื่องกลหรืองานโครงสร้างเหล็ก
- วัตถุดิบที่ใช้ : เหล็กกล้าคาร์บอนปานกลางหรือเหล็กอัลลอย (Medium Carbon Steel or Alloy Steel)
3. เกรด 10.9
- ความแข็งแรงสูง : ใช้ในงานที่ต้องการรับแรงดึงสูง เช่น งานในอุตสาหกรรมยานยนต์หรือเครื่องจักรหนัก
- วัตถุดิบที่ใช้ : เหล็กกล้าคาร์บอนปานกลางที่ผ่านการอบชุบแข็ง (Medium Carbon Steel with Heat Treatment)
4. เกรด 12.9
- ความแข็งแรงสูงมาก : ใช้ในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงและรับแรงมาก เช่น งานอุตสาหกรรมหนักหรือการประกอบชิ้นส่วนที่ต้องการความมั่นคงสูง
- วัตถุดิบที่ใช้ : เหล็กอัลลอยที่ผ่านการอบชุบแข็ง (Alloy Steel with Heat Treatment)
5. เกรดสแตนเลส (Stainless Steel Grades เช่น A2, A4)
- ความทนทานต่อการกัดกร่อน : ใช้ในงานที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี
วัตถุดิบที่ใช้ : สแตนเลสเกรดต่าง ๆ เช่น A2 (304 Stainless Steel), A4 (316 Stainless Steel)
การเลือกวัตถุดิบในการผลิตน็อตสกรูสั่งทำจะขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของงานนั้น ๆ หากต้องการความแข็งแรงสูง ควรเลือกใช้เหล็กกล้าที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและผ่านกระบวนการอบชุบเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ส่วนในงานที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน ควรเลือกใช้สแตนเลสที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้น ๆ